ผู้ใช้รถควรรู้ ขนส่งประกาศระบุตั้งแต่ 19 ก.พ.64 ก่อนขอใบขับขี่-ต่ออายุรถทุกชนิดต้องมีใบรับรองแพทย์

กรมการขนส่งทางบก ระบุตั้งแต่ 19 ก.พ.64 ก่อนขอใบขับขี่-ต่ออายุรถทุกชนิดต้องมีใบรับรองแพทย์ พร้อมเผย การขอใบขับขี่บิ๊กไบค์

คืบหน้ากำลังเตรียมพร้อมการอบรมและทดสอบเพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 28 ต.ค.63 นายยงยุทธ นาคแดง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ภายหลังจากกฎกระทรวงการขอและการออกใบ

อนุญาตขับรถและการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ. 2563 ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 63 ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีผลใช้

บังคับในวันที่ 19 ก.พ.64 โดยสาระสำคัญนอกจากเพิ่มเติมข้อกำหนดให้ผู้ที่ประสงค์จะขับรถจักรยานยนต์ที่มีกำลังสูง (Big bike) ต้อง

ผ่านการอบรมและทดสอบเพิ่มเติมแล้วนั้น ยังมีสาระสำคัญในเรื่องของใบรับรองแพทย์ ที่ต้องใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการดำเนินการ ต้อง

แสดงให้เห็นว่าผู้นั้นไม่มีโรคประจำตัว หรือสภาวะของโรค ที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่าอาจเป็นอันตรายขณะขับรถตามที่แพทยสภา

กำหนด ในส่วนนี้กรมการขนส่งทางบก จะประสานความร่วมมือกับแพทยสภา ในการกำหนดโรคหรือสภาวะของโรคที่ต้องห้ามในการขอรับใบ

อนุญาตขับรถ และจะวางแนวทางในการตรวจรับรองของแพทย์กับแพทยสภาให้เรียบร้อยก่อนกฎกระทรวงจะมีผลใช้บังคับ

รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กฎกระทรวงดังกล่าวยังกำหนดให้ผู้ที่ประสงค์จะขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถจะต้องใช้ใบ

รับรองแพทย์ประกอบในการดำเนินการอีกด้วย แต่เดิมการต่ออายุใบอนุญาตขับรถไม่มีการกำหนดให้ใช้ใบรับรองแพทย์ แต่ด้วยข้อเท็จจริง

สมรรถภาพของร่างกายของผู้ขับรถย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามวัยที่เพิ่มมากขึ้น และอาจมีโรคประจำตัว หรือมีสมรรถภาพของร่างกายที่

บกพร่องจนไม่สามารถขับรถได้ จึงกำหนดให้ต้องมีใบรับรองแพทย์มาประกอบในการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์

2564 เป็นต้นไป ผู้ที่ต้องการขอรับและขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถทุกชนิดทุกประเภทต้องมีใบรับรองแพทย์ยื่นประกอบการดำเนินการด้วย

นายยงยุทธ กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าการกำหนดหลักเกณฑ์อบรมและทดสอบเพิ่มเติมสำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ หรือ รถ

จักรยานยนต์ที่มีกำลังเครื่องยนต์ตั้งแต่ 35 กิโลวัตต์ขึ้นไป หรือมีขนาดความจุของกระบอกสูบรวมกันตั้งแต่ 400 ลูกบาศก์เซนติเมตรขึ้นไป

อยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับเมื่อกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ

รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ เบื้องต้นมีการกำหนดหัวข้อหลักสูตรการอบรมและทดสอบ ประกอบด้วย การอบรมภาค

ทฤษฎีที่เกี่ยวกับผู้ขับขี่ ยานพาหนะ สภาพแวดล้อม เป็นต้น การฝึกอบรมภาคปฏิบัติ เป็นการฝึกขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์อย่างปลอดภัย

และการทดสอบขับรถ เพื่อคัดกรองให้การออกใบอนุญาตขับรถมีความเหมาะสมกับประเภทของยานพาหนะเกิดความปลอดภัยต่อผู้ขับรถ และ

ได้มาตรฐานของการออกใบอนุญาตขับรถนอกจากนี้ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นโดยเฉพาะผู้ขับรถ (บิ๊กไบค์) ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

และเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องใช้ทักษะการขับรถสูงกว่าปกติ สร้างความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่และประชาชนผู้ใช้ถนนไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ หรือสูญเสีย

ชีวิตและทรัพย์สิน และมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน.

ข้อมูล thairath