ใครมี​สิ ทธิ์บ้าง เ​งื่​อนไข​รับเ​งิ​ น5,000

หลังจากศูนย์บริหารสถานก ารณ์เศร ษฐกิจที่ได้รับผลกระทบหรือ ศบศ. ได้ประชุมล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม63

และเห็นชอบ 2 โครงการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยรั ฐบ าลจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยว

ได้แก่ โครงการ เที่ยวไทยวัยเก๋า พร้อมปรับหลักเกณฑ์ เราเที่ยวด้วยกัน

โดยจากนี้จะนำมติเห็นชอบนี้ของศบศ. เพื่อเสนอ ครม.เพื่ออนุมัติและเริ่มดำเนินการต่อไป

งานนี้ผู้สูงวัยมีเฮ เมื่อ ศบศ.ไฟเขียวโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงอายุ เที่ยวไทยวัยเก๋า แจกสูงสุดไ ม่เกิน 5 พันบาทต่อคน

ดึงกลุ่มผู้สูงอายุ 1 ล้านคนเดินทางเที่ยวในประเทศวันธรรมดาผ่านบริษัทนำเที่ยว

โดยเงื่อนไขของโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงอายุ เที่ยวไทยวัยเก๋า มี 7 เงื่อนไข ได้แก่

1.เป้าหมาย 1 ล้านคน

2. วงเงิ นงบประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยให้เบิกจ่ายในวงเงิ นงบประมาณเดิมภายใต้โครงการ เราเที่ยวด้วยกัน

3. ผู้เข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นผู้ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป เดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดใน วันธรรมดา (วันอาทิตย์ ถึง วันพฤหัสบดี) ผ่านบริษัทนำเที่ยว

โดยมีราคาแพ็คเกจทัวร์ เริ่มต้นขั้นต่ำ 12,500 บาท และมีระยะเวลาการเดินทางท่องเที่ยวอย่ างน้อย 3 วัน 2 คืน

4. ผู้เข้าร่วมโครงการต้องแสดงตนเพื่อรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชั่นธนาคารกรุงไทย

5.บริษัทนำเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการต้องจดทะเบี ยนก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563

6. รั ฐสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวผ่านบริษัทนำเที่ยวในกลุ่มผู้สูงอายุ 40% สูงสุดไ ม่เกิน 5,000 บาท ต่อ 1 ท่าน

7. บริษัทนำเที่ยวสามารถรับนักท่องเที่ยวได้บริษัทละ 3,000 ราย

นอกจากนี้ยังเห็นชอบปรับปรุงเงื่ อนไขโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งได้มีการปรับปรุงใน7เงื่ อนไขเช่นกัน ได้แก่

1.ปรับปรุงขอบเขตการใช้สิทธิจำนวนการจองห้องพัก โดยจากเดิมประชาชนจองที่พักได้ไ ม่เกิน 10 คืน (Room Night) ต่อ 1 สิทธิ

สามารถจองที่พักเพิ่มอีก 5 คืน (Room Night) รวมเป็น 15 คืน (Room Night) ต่อ 1 สิทธิ

2. เพิ่มจำนวนห้องพักสำหรับประชาชนอีก 1 ล้านคืน (Room Night)

โดยเพิ่มจำนวนห้องพักจากเดิม 5 ล้านคืน (Room Night) เป็น 6 ล้านคืน (Room Night)

ทั้งนี้ จำนวนห้องพักที่เพิ่มมาจะสนับสนุนเฉพาะ E-Voucher (วันจันทร์ถึงพฤหัสบดี 900 บาทต่อวัน และวันศุกร์ถึงอาทิตย์ 600 บาทต่อวัน)

3. ขย ายระยะเวลาการใช้สิทธิโครงการฯ ถึงเดือนเมษายน 2564 และขย ายเวลาการเบิกจ่ายโครงการฯ ถึงเดือนมิถุนายน 2564

4.ขย ายระยะเวลาการจองที่พัก จากเวลา 06.00-21.00 น. เป็นเวลา06.00-24.00 น.

5.เพิ่มโรงแรมที่พักที่ไ ม่ได้รับใบอนุญาตประกอบการโรงแรม แต่ต้องมีหมายเลขประจำตัวของผู้เสี ยภาษี (TAX ID) และมีการจดทะเบี ยนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้สามารถเข้าร่วมโครงการได้

6.การอนุมัติให้สถานประกอบการอันเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว

ประกอบด้วย ธุรกิจการขนส่ง ธุรกิจสปาหรือนวดเพื่อสุ ขภ าพ ได้แก่ สปา/นวดเพื่อสุ ขภ าพ รถเช่าหรือเรือเช่า สามารถใช้ E-Voucher ได้

7. ปรับเกณฑ์การสนับสนุนค่าบัตรโดยส ารเครื่องบิน โดยให้การจองบัตรโดยส ารเครื่องบินที่เดินทางไปเฉพาะเมืองหลักทางการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ

จะได้รับเงิ นคืนจากรั ฐบ าล 40% แต่ไ ม่เกิน 3,000 บาทต่อที่นั่ง

(เมืองหลักประกอบด้วย ภูเก็ต กระบี่ พังงา สงขลา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ และเชียงราย)

ปัจจุบันโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ขณะนี้มีผู้ลงทะเบี ยนรวม 6.76 ล้านคน ลงทะบี ยนสำเร็จแล้ว 6.44 ล้านคน

แบ่งเป็นมีผู้ใช้สิทธิโรงแรมแล้ว 4,006,805 สิทธิ มูลค่าห้องพักที่จองทั้งหมด 10,961.3 ล้านบาท

ราคาเฉลี่ยห้องพักต่อคืนที่จอง อยู่ที่ 2,778 บาท จำนวนโรงแรมที่มีการจองทั้งสิ้ น4,888 แห่ง

ผู้ที่ได้รับคูปองอาหาร 863,162 ราย รวมมียอดใช้จ่ายทั้งหมด 3,510.4 ล้านบาท

และมีผู้เข้าใช้บริการ หรือเช็คอินที่โรงแรมที่พักแล้ว 1,417,269 ห้อง

สำหรับตั๋วเครื่องบิน ขณะนี้มีมีผู้ลงทะเบี ยนได้รับสิทธิเงิ นคืนค่าบัตรโดยสารเล้ว 97,862 ราย

จำนวนการจองผ่านการตรวจสอบ อยู่ที่ 123,912 สิทธิ จำนวนบัตรโดยส ารหรือผู้โดยส ารที่ได้รับสิทธิแล้ว 216,866 สิทธิ

มีมูลค่าบัตรโดยส ารที่ได้รับสิทธิประมาณ 565.3 ล้านบาท

ส่วนโรงแรมและที่พัก มีผู้ลงทะเบี ยนรวม 8,128 แห่ง ร้านอาหาร ลงทะเบี ยนรวม 65,429 ร้าน

สถานที่ท่องเที่ยว ลงทะเบี ยนรวม 1,959 แห่ง ร้านค้าโอทอป ลงทะเบี ยนรวม 1,314 แห่ง