นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิ ดเผยว่า
ตามกฎกระทร วงการขอและการออกใบอนุญาตขับรถและการต่ออ ายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ.2563
ได้กำหนดให้การขอรับและต่ออ ายุใบอนุญาตขับรถ ต้องมีเอกส ารใบรับรองแพ ทย์ประกอบการดำเนินการ
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการตามกฎกระทร วงฉบับดังกล่าวเป็นระเบี ยบเรียบร้อย ขบ.จึงออกระเบี ยบว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับใบอนุญาตขับรถ
และบัตรประจำตัวคนขับรถ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ.2564
และระเบี ยบกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการต่ออ ายุใบอนุญาตผู้ประจำรถ พ.ศ.2564 ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป
นายจิรุตม์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการดำเนินการด้านใบอนุญาตขับรถ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และใบอนุญาตผู้ประจำรถ
ตามกฎหม ายว่าด้วยการขนส่งทางบก ทุกชนิดทุกประเภท ต้องมีเอกส ารใบรับรองแพ ทย์
เป็นหลักฐานประกอบการดำเนินการทุกครั้ง ประกอบด้วย การขอใ หม่ กรณีไ ม่เคยได้รับใบอนุญาตขับรถหรือใบอนุญาตผู้ประจำรถมาก่อน การเปลี่ยนชนิด การต่ออ ายุ และการเปลี่ยนประเภท
โดยใบรับรองแพ ทย์นั้น ต้องเป็นไปตามแบบมาตรฐานของแพ ทยสภา มีสองส่วนคือ
ส่วนที่ผู้ขอรับรองสุ ขภ าพตนเองและส่วนของแพ ทย์ตรวจรับรอง
ซึ่งจะต้องแสดงให้เห็นว่าผู้นั้นไม่มีโร ค ประจำตัวหรือสภาวะของโร ค ที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่าอาจเป็นอั นตร ายขณะขับรถตามที่แพ ทยสภากำหนด
การต่ออ ายุใบอนุญาตขับรถ ตามกฎหม ายว่าด้วยรถยนต์ และใบอนุญาตผู้ประจำรถ ตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก
เดิมจะไ ม่มีการกำหนดให้ใช้เอกส ารใบรับรองแพ ทย์ แต่ด้วยข้อเท็จจริงสมรรถภาพของ
ร่ างกายของผู้ขับรถมีการเปลี่ยนแปลงไปตามวัยที่เพิ่มมากขึ้นและอาจมีโร คประจำตัว
หรืออาจมีเห ตุให้สมร รถภาพของร่ างกาย บก พร่อง จนไ ม่สามารถขับรถได้
จึงจำเป็นต้องกำหนดให้ผู้ขับรถเข้ารับการตรวจรับรองจากแพ ทย์ก่อนเบื้องต้น
และจะมีการทดสอบสมร รถภาพทาง ร่ างกาย ที่จำเป็นต่อการขับรถเมื่อมาติ ดต่อที่สำนักงานขนส่งทุกแห่ง
นายจิรุตม์กล่าวอีกว่า เพื่อให้แพ ทย์ออกใบรับรองแพ ทย์ให้ถูกต้องตรงกับวัตถุประสงค์การนำไปใช้และเป็นไปตามรูปแบบที่กำหนด
ส่วนในอนาคตจะมีการกำหนดสภาวะโร คที่ต้องห้ ามในการขอรับใบอนุญาตขับรถเพิ่มเติมหรือไ ม่นั้น ขบ.จะประสานความร่วมมือกับแพ ทยสภาอย่ างใกล้ชิดต่อไป