สำนักงานส่งเสริมการค้ าในต่ างประเ ทศ (สคต. / ทูตพาณิชย์) ณ กรุงเวี ยงจันทน์ สาธารณรั ฐประชาธิปไตยประชาชนล าว(สปป.ลาว)
ร ายงานโดยระบุว่านางกิ่งแก้ว จันทะลังสี ผู้อำนวยการบริษัท บอลิคำไซ การฟาร์มพัฒนาส่งเสริมกสิกร รม จำกัด
กล่าวว่า เนื่องจากที่ผ่านมามีสินค้ าต่างประเท ศหลั่ งไ หลเข้ามาใน สปป.ลาว เป็นจำนวนมาก
ทำให้เกิ ดการแข่ งขันค่อนข้าง สูงจึงตั ดสินใจทำธุรกิจผลิตสินค้ าเกษตรตามแนวทางการส่งเสริมของพรรคและรั ฐบ าล สปป.ลาว
ที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรแบบยั่งยืน เพื่อสร้างร ายได้ให้ประชาชนและประเทศชาติ เพื่อส่งออกไปต่างประเ ทศ โดยเฉพาะจีน
ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 มูลค่าการนำเข้าทุเรี ยนจากต่างประเ ทศของจีนสูงถึง 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรั ฐฯ
เพิ่มขึ้นร้อยละ 73 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่นำเข้าจากไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
ในอนาคตคาดว่า สปป.ลาว และเวียดนามจะส่งออกทุเรียนไปต่างประเ ทศเช่นกัน
โดยมีจีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในโลกรองรับ สาเห ตุที่ทำให้การส่งออกทุเรียนของสปป.ลาวเติบโต
เนื่องจาก สปป.ลาว มีข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับหลายประเ ทศ โดยได้ยกเลิ กการเก็บภาษีนำเข้าจาก 16 ประเ ทศ
เช่น จีน อิตาลี นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น อินเดีย เป็นต้น
อย่ างไรก็ตาม บริษัทฯ เองก็มีตลาดจีนรองรับแล้ว สำหรับพันธุ์ทุเรียนและขนุนที่ใช้ปลูกจะนำเข้าจาก ต่างประเ ทศ
โดยได้ปลูกไปแล้วบ างส่วน คาดจะสามารถส่งออกทุเรี ยนได้ในปี 2567 ปัจจุบัน สปป.ลาว
มีพื้นที่ปลูกทุเรียนที่แขวงจำปาสัก โดยเป็นทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองและหมอนทอง
โดยเริ่มมีนักลงทุนชาวจีนขอสัมปทานที่ดินจากรั ฐบ าลเพื่อปลูกทุเรียน ประมาณ 20,000 – 30,000 ไร่
สคต.เวียงจันทน์ ระบุว่า ปัจจุบัน สปป.ลาว เริ่มทำการเกษตรมากขึ้น เพื่อลดการนำเข้า
ประกอบกับรั ฐบ าลต้องการสนับสนุนให้หันมาประกอบอาชีพในประเ ทศ ทั้งนี้ สปป.ลาว
ยังมีพื้นที่อีกจำนวนมากที่สามารถทำการเกษตร จึงเป็นช่องทางหนึ่งให้นักลงทุนจากต่างประเ ทศเข้ามาลงทุน
โดยเฉพาะจีน ที่เข้ามาขอสัมปท าน ซึ่งในอนาคตอาจจะกระทบกับการส่งออกสินค้าเกษตรจากไทยหลาย ๆ รายการ
ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กล้วย ทุเรี ยน พืชผักทางการเกษตร