จับต าทิ ศทางทอง

กองทุน ETF ลดการถือครองทองคำในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่ านมา 84.7 ตัน หรือประมาณ 2.0% มูลค่าลงทุน 4.6 พันล้านดอลลาร์

นับเป็นการถอนเงิ นลงทุนออกจากทองคำเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 เดือน

สินทรัพย์ทองคำที่ยังลงทุน เหลืออยู่ที่ 3,681 ตัน หรือประมาณ 207,000 ล้านดอลลาร์ )

เป็นระดับที่ตำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ซึ่งร าคาทองคำปิดในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 1,743 ดอลลาร์/ออนซ์

เงิ นลงทุนไหลออกจากทองคำมาจากกองทุนในทวีปอเมริกาเหนือมากที่สุด 71.2 ต้น หรือ ร าว 4.1 พันล้านดอลลาร์

ลดลง 3.4% ส่วนใหญ่เป็นแร งเทข ายจากกองทุน ขนาด ใหญ่ ที่เคยไล่ซื้อทองคำในร าคาต่ำมาเมื่อปีที่ผ่ านมา จากก CV

กองทุนทองคำในยุโรป ข ายออก 23.8 ตัน หรือร าว 1.1 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 1.1% ส่วนใ หญ่มาจากกองทุนในอังกฤษ

ส่วนกองทุนจากภูมิภาคอื่นข ายออก 300 ตัน หรือร าว 27 ล้านดอลลาร์ ลดลง 0.7%

อย่ างไรก็ตาม ในเดือนกุภาพันธ์ มีแรงซื้อจากเอเชีย

โดยมีเงิ นลงทุนเข้ามา 10.6 ตัน หรือ 596 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8.4% ซึ่งมาจากกองทุนในจีนและอินเดีย เข้าซื้อในช่วงที่ร าคาทองคำปรับลดลง

นักลงทุนลดคาดก ารณ์ว่าทองคำจะขึ้น

สภาทองคำโลกระบุว่าร าคาทองคำในตลาดโลกที่ซื้อข ายเป็นเงิ นดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์

เป็นเดือนที่ร าคาร่วงหนักที่สุดในรอบ 4 ปี หรือ ร าว 6.5% ปิดที่ 1,743 ดอลลาร์/ออนซ์

นับว่าเป็นปีที่ไ ม่เริ่มต้นไ ม่นักสำหรับทองคำ เพราะตามสถิติในรอบ 20 ปี

ร าคาทองคำในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ จะเป็นช่วงที่ร าคาทองปรับขึ้ยอย่ างแข็งแก ร่ง

การเทข ายของกองทุน ETF ก็นับว่าผิ ดปกติเช่นเกียวกัน เพราะโดยทั่วไปแล้วบรรดากองทุนจะเข้าลงทุนค่อนข้างมากในช่วงไตรมาสแรกของปี

มูลค่ าการซื้อข ายก็เป็นไปอย่ างซ บเ ซา ลดลง 12% ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์

อยู่ที่วันละ 166,000 ดอลลาร์ ต่ำกว่าค่ าเฉลี่ยเมื่อปีที่ผ่ านมา อยู่ที่วันละ 183,000 ดอลลาร์

โดยการซื้อข ายในตลาดล่ วงหน้ า (COMEX) ลดลงมากถึง 30% และนักลงทุนถือ Net long positioning ซึ่งคาดว่าร าคาจะขึ้นในอนาคต

ลดลงเหลือ 675 ตัน เที่ยบกับค่ าเฉลี่ยในปีที่ผ่ านมา ถือ net long ที่ระดับ 871 ตัน และเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562

ร าคาทอง

การเทข ายทองรอบนี้ของนักลงทุนมาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรั ฐโดยตรง ซึ่งอัตร าผลตอบแทนพันธบัตรและอัตร าดอกเบี้ย

นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญให้ร าคาทองคำ-ขึ้นลง โดยช่วงที่ผ่ านมาความอ่อนไหวของราคาทองคำต่ออัตร าดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 4 เท่า

ซึ่งเป็นเห ตุผลที่อธิบายว่าทำไ มร าคาทองคำในปีที่ผ่ านมาจึงขยับขึ้น 40% เพราะเกือบทุกประเท ศลดดอกเบี้ยต่ำใกล้ศูนย์ หรือบางประเท ศก็ติ ดลบ

แม้ว่ามีสัญญ าณการขยับขึ้นของดอกเบี้ย แต่อัตร าดอกเบี้ยในตลาดยังถือว่าต่ำเป็นประวัติก ารณ์

และอัตร าดอกเบี้ยที่แท้จริงในประเท ศยักษ์ใ หญ่ในขณะนี้ก็ถือว่า “ติ ดลบ”

ดังนั้นร าคาทองอาจประคองตัวอยู่ได้ ซึ่งหากดอกเบี้ยต่ำกว่า 2% ยังไ ม่กระทบต่อร าคามากนัก

ทองขึ้นหลังสินค้ าโภคภัณฑ์อื่น

เงิ นเฟ้อทั่วโลกที่อาจจะเริ่มขยับขึ้นอีกไ ม่กี่เดือนข้างหน้านี้ อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจุยลบกับร าคาทองคำ

แม้เดิมทีทองคำถือเป็นสินทรั พย์ต่อสู้กับเงิ นเฟ้อได้ดีที่สุด แต่นั่นเป็นภาวะปกติ ไ ม่เหมือนที่กำลังเกิ ดขึ้นในขณะนี้

เพราะเว่าเงิ นเฟ้อที่กำลังจะทะย านขึ้นตามที่ประเมินกันมาจากการฟื้นตัวทางเศร ษฐกิจอย่ างร วดเร็ว

และการอัดฉีดเม็ดเงิ นเข้าระบบเพื่อฟื้นฟูเศร ษฐกิจ ซึ่งหากเศร ษฐกิจฟื้นตัวเร็วก็จะทำให้ตลาดหุ้นดีตามไปด้วย เนื่องจากธุรกิจไปได้ดี

ทั้งหมดที่กำลังจะเกิ ดขึ้นมีทั้งผลบวกและผลลบ ต่อร าคาทองคำ แต่เมื่อประเมินรวม ๆ ส่งผลกระทบใน เชิงลบ ต่อร าคาทองคำมากกว่า

เพราะจากการคาดก ารณ์ว่าเศร ษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวเร็ว ทำให้มีความต้องการสินค้ าโภคภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้น

ซึ่งขณะนี้ร าคาได้วิ่งไปไกลแล้ว รวมถึงน้ำมันก็ขยับขึ้นไปใกล้ ๆ กับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล

แล้วอะไรจะเกิ ดขึ้นกับทองคำ

ตามแนวโน้มที่เคยเกิ ดขึ้นในอดีต ร าคาทองคำจะขึ้นช้ากว่าสินค้ าโภคภัณฑ์อื่นในช่วง 6 เดือนแรกของเศ รษฐกิจขย ายตัว

แต่จะเริ่มขยับขึ้นกลังจากนั้นย าวในช่วง 6-36 เดือนต่อมา ที่เป็นเช่นนี้เพราะความต้องการสินค้ าโภคภัณฑ์จะสูงขึ้นจากเศร ษฐกิจขย ายตัว

และจะผลักดันให้เงิ นทะย านขึ้น ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น บรรดานักลงทุนจะเริ่มประกันความเสี่ ยงจากการลงทุน

ซึ่งสินทรัพย์ที่นิยมมากที่สุดในกาต่อสู้เ งินเฟ้อ คือ ทองคำ

ดังนั้น จากสถานก ารณ์ตลาดที่เกิ ดขึ้น คนที่สนใจลงทุนทองคำต้องติ ดต ามอย่ างใกล้ชิด เพราะใน

แต่ละช่วงเวลา ปัจจัยเดียวกันอาจส่งผลกระทบต่ างกัน อย่ างเช่น ที่คาดก ารณ์ว่าเงิ นเฟ้อสูง ดอกเบี้ยขึ้น นักลงทุนแห่เทข าย

เพราะคาดก ารณ์ว่าเศร ษฐกิจภาพรวมจะกลับมาขย ายตัว แต่เมื่อสถานก ารณ์ผ่ านไป คนอาจจะซื้อทองคำ เพราะเงิ นเฟ้อพุ่งขึ้น เป็นต้น

อย่ างไรก็ตาม ภาวะก ารณ์ในข่วงเวลา และตามสถิติต่าง ๆ ที่เกิ ดขึ้นกับร าคาทองคำ ก็ต้องถือว่าไ ม่ปกตินัก

อาจยังไ ม่เป็น เวลาที่ดี สำหรับการลงทุนทองคำ จนกว่าทิศทางจะชัดและคลื่นลมในท้องทะเลตลาดเงิ นตลาดทุนจะสงบ

ที่มา thebangkokinsight