เมื่อวันที่ 10 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวร ายงานว่า นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิ ดถึงสถานก ารณ์ภั ยแล้งในขณะนี้

ว่า ช่วงฤดูฝนที่ผ่านมาพบว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของภาคเหนือประส บปัญ หาฝนตกน้อยกว่าปกติ
ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำต่างๆ มีปริมาณน้ำคงเหลือน้อย ทำให้ในหลายพื้นที่จะประส บปัญห าข าดแค ลนน้ำ
ดังนั้น กรมส่งเสริมการเกษตร จึงขอความร่วมมือ เกษตรกรในพื้นที่ 28 จังหวัดให้งดปลูกข้าวนาปรังรอบ 2 เด็ ดข าด ประกอบด้วย

พื้นที่ลุ่มเจ้าพระย า 14 จังหวัด ถือว่าเป็นพื้นที่เน้นหนักในการขอความร่วมมือให้งดปลูก
ได้แก่ จังหวัดพิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย ชัยน าท นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธย า สิงห์บุรี
อ่างทอง ฉะเชิงเทรา นครนายก นครปฐม สมุทรสาคร และจังหวัดสุพรรณบุรี
และพื้นที่ลุ่มน้ำอื่นๆ 14 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงร าย น่าน ลำพูน บึงกาฬ มหาส ารคาม ร้อยเอ็ด
ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี ร าชบุรี ระยอง สระแก้ว ชุมพร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เนื่องจาก หากมีการปลูกข้าวอีกครั้งเป็นรอบที่ 3 ของปี หรือ นาปรัง รอบที่ 2 จะทำให้เกิ ดความเสี่ ยงสูงที่จะข าดแคลนน้ำอย่ างรุ นแ รง
และส่งผลเสี ยต่อระบบนิเวศจากภาวะน้ำเค็มรุ กท้ ายลุ่มเจ้าพระย า และในท้ ายที่สุดต้นข้าวจะยืนต้นต ายจากการข าดแคลนน้ำอย่ างรุ นแ รง
โดยเกษตรกรควรพักนาและไถกลบฟางข้าวเพื่อเป็นปุ๋ย หรือเลือกปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทน
เช่น ข้าวโพด ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วลิสง กลุ่มพืชผัก
เช่น ตระกูลกะหล่ำ ตระกูลแตง ตระกูลถั่ว ตระกูลมะเขือ ผักกินใบ พืชหัว กระเจี๊ยบเขียว ข้าวโพดฝักสด และเห็ด