เมื่อวันที่ 23 มีนาคม น.ส.กุลย า ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศร ษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิ ดเผยว่า
ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบโครงการค นละครึ่ง เฟส 3 ซึ่งจะไ ม่ได้ต่อโครงการทันทีที่จบ เฟส 2 ในสิ้ นเดือนมีนาคมนี้
ซึ่งคาดว่าโครงการจะออกมาได้หลังจากที่โครงการเร าชนะ และ ม 33 เร ารักกัน สิ้ นสุดในช่วงเดือนพฤษภาคม 2564
โดยผู้ได้รับสิทธิร ายเดิมอาจจะไ ม่ต้องลงทะเบี ยนใ หม่อีกครั้ง เนื่องจากมีข้อมูลในแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง แล้ว
“เม็ดเงิ นหมุนเวี ยนในระบบเศร ษฐกิจ ยังมีอยู่ถึงช่วงเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งในช่วงก่อนเม็ดเงิ นจะหมดก็ต้องมามาสรุปอีกครั้ง
เพื่อให้มีเม็ดเงิ นออกมาดูแลเศร ษฐกิจอย่ างต่อเนื่อง ซึ่งจะใช้งบประมาณจาก พ.ร.ก.กู้เ งิน
ในก้อนฟื้นฟูเศร ษฐกิจและสังคม ซึ่งมีวงเงิ นเหลืออยู่กว่า 2 แสนล้านบ าท” น.ส.กุลย า กล่าว
น.ส.กุลย ากล่าวว่า ประเมินว่าผลจากมาตรการกระตุ้นเศร ษฐกิจของรั ฐ ตั้งแต่โครงการค นละครึ่ง เร าชนะ เป็นต้น
จะช่วยกระตุ้นเศร ษฐกิจทั้งปี 2564 ได้ 0.8% ส่วนเป้าหมายที่ นายอาคม เติมพิทย าไพสิฐ รั ฐมนตรีว่าการกระทร วงการคลัง
วางไว้ว่าอย ากให้ปีนี้เศร ษฐกิจโต 4% นั้น ก็จะต้องติ ดต ามว่ามีมาตรการส่วนใดบ้ างที่สามารถช่วยสนับสนุนได้
และยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการฉี ดวั คซีน ซึ่งหากมีการฉี ดทั่วโลก อาจจะช่วยให้การท่องเที่ยวกับมาได้
น.ส.กุลย ากล่าวว่า ส่วนความคืบหน้ าของโครงการเร าชนะ ณ วันที่ 23 มีนาคม
มีผู้ได้รับสิทธิในโครงการ รวมทั้งสิ้ นจำนวน 32.4 ล้านค น คิดเป็นมูลค่ าการใช้จ่ ายหมุนเวียนในระบบเศร ษฐกิจไทยแล้วกว่า 150,319 ล้านบ าท
แบ่งเป็น กลุ่มผู้ถือบัตรสวั สดิการแห่งรั ฐ จำนวน 13.7 ล้านคน
ได้มีการใช้จ่ ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 58,968 ล้านบ าท
กลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง ในโครงการเร าเที่ยวด้วยกัน และค นละครึ่ง
และกลุ่มที่ลงทะเบี ยนทางเว็บไซต์ www.เร าชนะ.com ที่ผ่ านการคัดกรองและยืนยันสิทธิแล้ว จำนวน 16.7 ล้านคน
และมีการใช้จ่ ายวงเงิ นสิทธิสะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 83,926 ล้านบ าทและ
กลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่ านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.0 ล้านคน
มียอดใช้จ่ ายวงเงิ นสิทธิสะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 7,425 ล้านบ าท
ส่วนร้ านค้ าที่เข้าร่วมโครงการมีจำนวนทั้งสิ้ นมากกว่า 1.2 ล้านกิจการ