เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 หลังจากที่ประชุมคณะรั ฐมนตรี (ครม.)
เห็นชอบมาตรการเยี ยวย าผู้ได้รับผลกระทบจากคำสั่ งเพื่อระงั บยับยั้ งและป้องกันcv ในหลายโครงการ
เพื่อบรรเทาภาระค่ าใช้จ่ ายในระยะเร่งด่วน นางสาวกุลย า ตันติเตมิท โฆษกกระทร วงการคลังเปิ ดเผย มาตรการที่ให้ความช่วยเหลือ กับจส.100 ว่า
โครงการเร าชนะ เป็นการขย ายวงเงิ นช่วยเหลือให้ประชาชนอีกสัปดาห์ละ 1,000 บ าท เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์
จะเริ่มโอนเงิ นรอบใ หม่เข้าแอปพลิเคชันเป๋าตัง บัตรสวั สดิการแห่งรั ฐ หรือบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ดังนี้
งว ดแรก 1,000 บ าท วันศุกร์ที่ 21 พ.ค. 64 งว ดที่ 2 อีก 1,000 บ าท 28พ.ค.64
โครงการ ม33 เร ารักกัน เป็นการขย ายเพิ่มวงเงิ นช่วยเหลือผู้ประกันตน มาตรา 33 อีกสัปดาห์ละ 1,000 บ าท เป็นเวลา 2 สัปดาห์
จะเริ่มโอนเงิ นรอบใ หม่ ในวันที่จันทร์ที่ 20 และ 27 พ.ค.64
โดยมีระยะเวลาการใช้จ่ ายสิ้ นสุดในวันที่ 30 มิ.ย.64 จำนวนกลุ่มเป้าหมาย 9.27 ล้านคน โดยกรอบวงเ งิน 1.85 หมื่นล้านบ าท
สำหรับโครงการค นละครึ่งจะเป็นโครงการกระตุ้นกำลังซื้อในระยะที่ 2 ภายหลังการควบคุมcv นางสาวกุลย า เปิ ดเผยว่า
นอกจากจะให้สิทธิ์กับคนที่เคยลงทะเบี ยนไว้แล้วกว่า 14 ล้านคน จะมีการเปิ ดให้ลงทะเบี ยนใ หม่อีกกว่า 16 ล้านคน เพื่อให้ได้รับสิทธิ์
โดยจะเริ่มใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2564 แต่ผู้ที่จะลงทะเบี ยนครั้งใ หม่ค นละครึ่งจะต้องเลือกว่าจะใช้โครงการค นละครึ่ง
หรือจะใช้โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ซึ่งจะเป็นการได้เงิ นคืนในรูปแบบ E-Voucher ไ ม่เกิน 7 พันบ าท ส่วนการกำหนดวันลงทะเบี ยนจะมีความชัดเจนอีกครั้ง