เมื่อเวลา 14.50 น. วันที่ 6 ก.ค. 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรั ฐมนตรี เปิ ดเผยว่า ที่ประชุมคณะรั ฐมนตรี (ครม.)
เห็นชอบกรอบวงเงิ น 2,519.38 ล้านบ าท โครงการเยี ยวย านายจ้างและผู้ประกันตน ตามมาตร า 33 ในระบบประกันสังคม
ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรั ฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มง วด โดยเป็นส่วนของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
(นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร) ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม. ได้เห็นชอบในหลักการเยี ยวย าไปแล้วเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2564 ที่ผ่ านมา
หลักเกณฑ์และเงื่ อนไขการเข้าร่วมโครงการ มีดังนี้
1. น ายจ้ างที่อยู่ในฐานข้อมูลประกันสังคม ณ วันที่ 28 มิ.ย. 2564
หรือนายจ้างที่ขึ้นทะเบี ยนใ หม่ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. – 30 ก.ค. 2564 จำนวน 41,940 ร าย
โดยจะได้รับเงิ นเยี ยวย าในอัตร า 3,000 บ าทต่อลู กจ้ างหนึ่งคน สูงสุดไม่เกิน 200 คนต่อแห่ง
2. ผู้ประกันตนมาตร า 33 จำนวน 663,916 ร าย จะได้รับเงิ นเยี ยวย าในอัตรา 2,000 บ าทต่อคน
ทั้งนี้กรณีที่ผู้ประกันตนทำงานกับน ายจ้ างมากกว่า 1 ร าย ให้มีสิทธิ์ได้รับเงิ นเยี ยวย าเพียงครั้งเดียวในอัตร า 2,000 บ าท
สำหรับวิธีการจ่ ายเงิ นเยี ยวย า
กรณีบุคคลธรรมดาและผู้ประกันตนมาตร า 33 จะโอนผ่ านบัญชีพร้อมเพย์ (PromptPay) เฉพาะการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน
กรณีนายจ้ างที่เป็นนิติบุคคล สำนักงานประกันสังคมจะโอนเข้าบัญชีเงิ นฝากตามที่นายจ้างแจ้ง
หรือต ามวิธีการอื่นๆ ที่กระทร วงแร งงานกำหนด
เริ่มโอนเงิ นเยี ยวย าครั้งแรกภายในวันที่ 23 ก.ค. 2564 และโอนเงิ นซ้ำทุกสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
โฆษกประจำสำนักนายกรั ฐมนตรี ยังเผยว่า ที่ประชุม ครม. ยังมอบหมายให้สำนักงานประกันสังคม
เร่งลงทะเบี ยนน ายจ้าง และให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแร งงานตรวจสอบนิติสัมพันธ์ความเป็นนายจ้างลู กจ้างของนายจ้าง
ที่ขึ้นทะเบี ยนประกันสังคมร ายใ หม่ในช่วงวันที่ 29 มิ.ย. – 30 ก.ค. 2564
เพื่อยืนยันว่ามีการประกอบธุรกิจและมีการจ้ างงานต ามจำนวนที่แจ้งขึ้นทะเบี ยนประกันสังคมไว้จริง
รวมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์ให้นายจ้างร ายใ หม่ลงทะเบี ยนเข้าสู่ระบบประกันสังค มมากขึ้นด้วย.