วันที่ 9 กรกฎาคม 64 นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกร รมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐ านะโฆษก กกพ. เปิ ดเผยว่า
กกพ.มีมติให้ตรึงค่ าไฟฟ้าผันแปร (ค่ าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บค่ าไฟฟ้าในรอบเดือนก.ย. ถึง ธ.ค.2564
โดยให้เรียกเก็บที่ -15.32 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้ายังคงจ่ ายค่ าไฟฟ้าเท่าเดิมในอัตร า 3.61 บาทต่อหน่วย
ต่อไปจนถึงสิ้ นปี 2564 ตามแนวทางการพิจารณาที่จะเก ลี่ยค่ าเอฟทีให้คงที่ตลอดปี 2564 นี้
การฟื้นตัวของเศร ษฐกิจโลกในช่วง 2 ถึง 3 เดือนที่ผ่ านมา
ส่งผลให้ร าคาก๊าซธรรมช าติที่เป็นเชื้ อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าถีบตัวสูงขึ้นอย่ างต่อเนื่อง
ตามภาวะร าคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นต ามปริมาณความต้องการการใช้น้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นจากสถานก ารณ์การเริ่มฟื้นตัวของเศร ษฐกิจโลก
ขณะที่ภาคเศร ษฐกิจของไทยยังอยู่ในภาวะเปราะบ าง และได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบ าดของ cv รอบใ หม่ที่ยังคงรุ นแ รงและขย ายวงกว้างอย่ างต่อเนื่อง
การตรึงค่ าเอฟทีจึงเป็นการประคับประคองเศ รษฐกิจ และไ ม่เป็นการซ้ำเติมผู้ใช้ไฟฟ้า
จากค่ าเอฟทีที่ปรับเพิ่มขึ้นต ามทิศทางร าคาน้ำมันดิบและการฟื้นตัวของเศร ษฐกิจโลกในช่วงปลายปี นายคมกฤช กล่าว
ทั้งนี้ แม้ กกพ.ประเมินแนวโน้มร าคาน้ำมันดิบที่ได้ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ในระดับ 66.3 เหรียญสหรั ฐต่อบาร์เรล
และแนวโน้มค่ าเงิ นบ าทเดือนพ.ค.2564 อ่อนตัวอยู่ในระดับ 31.3 บาทต่อเหรียญสหรั ฐ
ซึ่งมีผลโดยตรงต่อค่ าเอฟทีในช่วงปลายปี หากพิจารณาร าคาน้ำมันดิบในตล าดโลกที่ยังเพิ่มขึ้นอย่ างต่อเนื่องในปี 2565
จากการฟื้นตัวของเศร ษฐกิจโลกแล้ว ไทยจะเข้าสู่ภาวะร าคาพลังงานขาขึ้น
นายคมกฤช กล่าวยอมรับว่า ปี 2565 มีแนวโน้มค่ าเอฟทีเพิ่มขึ้น ดังนั้นการบริหารค่ าเอฟทีในปี 2565
จะเป็นไปในทิศทางเพื่อสร้ างให้ค่ าไฟฟ้ามีเสถี ยรภาพ มีความมั่นคง เพื่อร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบ ายต่างๆ ของภาครั ฐ
ในการดูแลผู้ใช้ไฟฟ้าในช่วงการเปลี่ยนผ่ านจากสถานก ารณ์การแพร่ระบ าดของ cv ไปสู่การฟื้นตัวของเศร ษฐกิจภายในประเทศอย่ างยั่งยืน
อย่ างไรก็ต าม หากสถานก ารณ์ร าคาน้ำมันดิบดูไบและอัตร าแลกเปลี่ยนมีการเปลี่ยนแปลงเกินกว่าที่ประมาณการไว้ กกพ.
จะยังคงสามารถใช้เงิ นบริหารที่เก็บไว้จำนวน 4,129 ล้านบ าท ไปช่วยรักษาเสถี ยรภาพค่าเอฟทีในช่วงปลายปี 2564 ได้
ที่มา siamnews