ทองคำ มีโอกาสสูงสุดขึ้นถึง 30,900

เดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่ านมามาด้วยความร้อนแ รงของการปรับขึ้นดัชนีหุ้นไทย

ที่ดีดตัวผ่ านระดับ 1,600 จุดได้อย่ างสวยงาม ซึ่งถือเป็นระดับจิตวิทย าที่ส่งผลต่อทิศทางดัชนี

เนื่องจากที่ผ่ านมาดัชนีเคยพย าย ามปรับขึ้นไปทดสอบระดับดังกล่าวแล้ว

แต่ไ ม่สามารถผ่ านไปได้ จึงเห็นการย่อตัวลงมาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,550 จุด ก่อนจะทยอยปรับขึ้น

ภาพดังกล่าวสวนทางกับตล าดทองคำ เนื่องจากเปิดเดือนใ หม่มาด้วยการปรับร าคาลง

หลังจากเห็นร าคาปรับขึ้นแตะ 28,200 บ าทต่อบ าททองคำ

แต่ล่ าสุดร าคาหลุดบริเวณ 28,000 บ าทต่อบ าททองคำลงมาแล้ว

จึงต้องลุ้นใ หม่ว่า ทิศทางร าคาทองคำจะเป็นอย่ างไรต่อไป

โดยในเดือนเมษายน ที่ผ่ านมา ร าคาทองคำปรับขึ้นแล้ว 1,100 บ าท

ส่วนเดือนพฤษภาคม ร าคาทองคำขึ้นแล้วกว่า 2,050 บ าทต่อบ าท

โดย ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2564 ร าคาทองแท่งข ายออก อยู่ที่บ าท (บ าททองคำ)

ละ 27,750 บ าท รับซื้อ 27,650 บ าท ส่วนทองรูปพรรณ ข ายออก 28,250 บ าท รับซื้อ 27,151.56 บ าท

ส่วนทองสปอตอยู่ที่ 1,869 เหรียญสหรั ฐต่อออนซ์ อัตร าแลกเปลี่ยน 31.38 บ าทต่อเหรียญสหรั ฐ

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้ าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

เปิ ดเผยว่า ภาพรวมตล าดทองคำ ยังมีทิศทางเป็นขาขึ้นอย่ างต่อเนื่อง

แม้ขณะนี้เริ่มเห็นแร งเทข ายทำกำไรกดดันให้ร าคาปรับลดลงได้บ้ าง แต่คาดว่าเป็นช่วงระยะสั้นๆ เท่านั้น

โดยหากร าคาทองคำสปอตพย าย ามยืนเหนือแนวรับโซน 1,886 เหรียญสหรั ฐต่อออนซ์ได้อย่ างมั่นคง

เชื่ อว่าจะเกิ ดแร งซื้อเข้ามาดันให้ร าคาปรับตัวขึ้นอีกคร้ัง

หลังจากช่วงเดือนพฤษภาคม ที่ผ่ านมา ร าคาทองคำไทยปรับขึ้นไปทำร าคาสูงที่สุดในปีนี้

แบ่งเป็นร าคาทองแท่งข ายออก อยู่ที่บ าท (บ าททองคำ) ละ 27,750 บ าท รับซื้อ 27,650 บ าท

ส่วนทองรูปพรรณ ข ายออก 28,250 บ าท รับซื้อ 27,151.56 บ าท

ส่วนทองสปอตอยู่ที่ 1,869 เหรียญสหรั ฐต่อออนซ์

แม้จะเห็นร าคาเคลื่อนไหวย่อตัวลง แต่ร าคาทองคำโลกยังไ ม่ได้ปรับขึ้นสูงสุด

จึงยังมีโอกาสเห็นร าคาทองคำไทยปรับขึ้นได้อีก ตามทิศทางร าคาทองคำในตลาดโลก

โดยให้เป้าหมายร าคาทองคำไทยทำจุดสูงสุดในปี 2564 ระดับแรกอยู่ที่ 29,000 บ าทต่อบ าททองคำ

และระดับ 2 อยู่ที่ 30,900 บ าทต่อบ าททองคำ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ร าคาทองคำเคยไปถึงในปี 2563

ส่วนร าคาทองคำโลกระดับแรกอยู่ที่ 1,920 เหรียญสหรั ฐต่อออนซ์ และระดับ 2 อยู่ที่ 2,075 เหรียญสหรั ฐต่อออนซ์

ปัจจัยเสี่ ยงที่จะกดดันให้ร าคาทองคำปรับลดลง คือการกระจายฉีดวัคซีนได้มากขึ้น

แต่มองว่าเป็นปัจจัยที่กดดันร าคาในระยะสั้นเท่านั้น เพราะแม้วัคซีนจะเข้ามาแล้ว

แต่ความกังวลในผลกระทบทางเศร ษฐกิจในภาพรวมยังอยู่ จึงมองว่าปีนี้ทองคำไ ม่มีปัจจัยเสี่ ยงหนักๆ

ที่จะสามารถกระแทกให้ร าคาปรับลดลงแรงๆ ได้ จึงแนะนำให้ลงทุนในพอร์ต 10% และรอจังหวะร าคาย่อตัวลง ทยอยซื้อสะสม

โดยให้แนวรับที่ระดับ 22,700 บ าทต่อบ าททองคำ ส่วนร าคาทองคำโลกให้แนวรับที่ 1,850 เหรียญสหรั ฐต่อออนซ์

และแนวรับถัดไปที่ 1,800 เหรียญสหรั ฐต่อออนซ์” นางสาวฐิภา กล่าว

นางสาวฐิภา กล่าวว่า ปัจจัยสนับสนุนร าคาทองคำหลักๆ คือ ค่ าเงิ นบ าทอ่อนค่าลง ร าคาทองคำต่ างประเท ศปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1,890 เหรียญสหรั ฐต่อออนซ์

เนื่องจากดัชนีหุ้น และสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างบิทคอยน์ มีการปรับร าคาลดลงรุนแ รง

ทำให้นักลงทุนโยกย้ ายเม็ดเงิ นจากสินทรัพย์เสี่ ยง เข้าลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภั ยมากขึ้น

ประกอบกับพบตัวเลขผู้ ติ ดcvร ายใ หม่ในระดับสูงต่อเนื่อง นอกจากนี้

ยังเห็นสหรั ฐดำเนินอัตราดอกเบี้ยนโยบ ายอยู่ในระดับต่ำ และธนาคารกลางสหรั ฐ (เฟด)

มีแนวโน้มไ ม่ลดการอัดฉีดเงิ นเข้าระบบผ่ านมาตรการผ่อนคลายทางการเ งิน (คิวอี) ทำให้นักลงทุนกังวลภาวะเงิ นเฟ้อ

และเศร ษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ร าคาทองคำเคลื่อนไหวในขาขึ้นต่อไป สำรวจความต้องการ (ดีมานด์)

ในการซื้อทองคำของต่า งประเ ทศ พบว่ามีมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะประเท ศจีน และอินเดีย ซึ่งเป็นประเท ศผู้ซื้อร ายใ หญ่ที่สุดในโลก ซึ่งในปี 2563

แร งซื้อทองคำของจีน ถูกกดดันจากcv ทำให้ความต้องการหดตัว แต่ขณะนี้จีนสามารถควบคุม ได้แล้ว

แร งซื้อจึงกลับมาเพิ่มขึ้น โดยในไตรมาส 1/2564 จีน มีแร งซื้อทองคำในรูปแบบเครื่องประดับ

เพิ่มขึ้น 191.1 ตัน บวก 212% ทองคำแท่งอยู่ที่ 86.42 ตัน บวก 133% เทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้ า

ซึ่งคาดก ารณ์ว่าแร งซื้อจะเพิ่มขึ้นอีกกว่า 277.53 ตัน บวก 182% ส่วนอินเดีย

มีแร งซื้อทองคำในรูปแบบเครื่องประดับ เพิ่มขึ้น 102.5 ตัน บวก 38.8% ทองคำแท่งอยู่ที่ 37.53 ตัน บวก 90%

คาดก ารณ์ว่าแร งซื้อจะเพิ่มขึ้นอีกกว่า 140 ตัน บวก 37.41% ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นของตลาดต่ างประเ ทศ

จึงเชื่ อว่าร าคาทองคำในปีนี้จะไ ม่ปรับลดลงรุนแ รงเหมือนปีที่ผ่ านมาแน่นอน