7 คำสอนของหลวงปู่ข าว อนาลโย
พระนักวิปัสสนาสายหลวงปู่มั่น
…….หลวงปู่ข าว อนาลโย แห่งวัดถ้ำกลองเพล จังหวัดหนองบัวลำภู
เป็นพระภิกษุ คณะธรรมยุติกนิกาย ที่ได้รับความเค ารพนับถือจากพุทธศาสนิกช น
ในฐานะพระนักปฏิบัติวิปัสสนากร รมฐาน สายของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
แม้ท่านจะละสังข ารไปกว่า 30 ปีแล้ว หากแต่คำสอนของท่านยังคงอยู่ในความทรงจำ
สร้ างศรัทธาในหมู่ชาวพุทธรุ่นแล้วรุ่นเล่ าและเป็นความจริงอยู่อย่ างไม่เสื่อมคล าย
1. ถ้าต้องการความเจริญก้าวหน้า อย่ าอิจฉาคนอื่น
2. อุปสรรคเป็นสัญลักษณ์ประการหนึ่ง ที่ช่วยผลักดันคนธรรมดาให้เป็นมหาบุรุษได้
3. จงยินดีในวิเวก จงยินดีในความเพียร จงยินดีละกิเลส ชื่อว่าได้ปฏิบัติต ามมัชฌิมาปฏิปทา
4. ถ้าเร าเว้นทำบ าป ก็จะไม่มีความเดือดร้อน ใครจะว่าอย่ างก็ต าม เร าไม่ว่าเข า
เข าติฉินนินทา เข าก็ว่าใส่ตัวเข าเอง
ปากของเข าก็อยู่ที่เข า หูของเข าก็อยู่ที่เข า
5. บ างคนทำบุญทำทานกันใหญ่โตมโหฬาร แต่เสียเพราะความโกรธ ความมีโทสะ
ความโกรธไหม้กุศลผลบุญจนหมดสิ้ น
เมื่อหมดบุญหมดกุศล บ าปก็พลอยทวีคูณขึ้น ผลทานก็หนี ผลศีลก็ไม่มี
ผลภาวนาก็หนีเข้ าป่าไปหมด
6. สัตว์โลกย่อมเป็นไปต ามกรรมดีกรรมชั่วที่ตนทำไว้ คนดีถึงจะทำตัวเป็นใบ้ใครก็รู้
ถึงจะหลบหลีกปลีกตัวอยู่ถ้ำ ภูเข าถึง
แม้มนุษย์ไม่รู้ เทวดาก็บอกเองกลิ่นของศีลย่อมฟุ้งขจรขจายไปทั่วทิศ เป็นนิมิตหมายของคนดี
7.คนเกิ ดมาไม่เหมือนกัน เพราะมีความประพฤติที่ต่ างกัน ผู้ที่เข าประพฤติดี
รักษาศีลมีการให้ทาน มีการสดั บรับฟังพระธรรม
เข าจึงมีปัญญาดี มีการศึกษาเล่ าเรียนดี การจำแนกสัตว์ให้ดีให้ชั่วต่ างๆ
กัน มันเป็นเพราะกรรม ถ้ามันยังทำกรรมอยู่ ก็ต้องได้
รับผลกรรมทั้งกรรมดีกรรมชั่ว มันต้องได้รับผลตอบแทน